วิตามินกินอย่างไรให้ถูกวิธี
วิตามินกินอย่างไร วิตามินที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เรากินเข้าไปค่ะ และส่วนหนึ่งร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง วิตามินที่ดีจึงต้องสกัดจากอาหาร ถึงอย่างไรเราก็ไม่กินวิตามินแทนอาหารนะคะ และวิตามินไม่ใช่ยา แต่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิต (Organic) ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย มีหน้าที่ช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ถูกต้อง และช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะถ้าขาดวิตามินแล้วร่างกายจะหยุดทำงานค่ะ
ในที่นี้จะขอเล่าถึงวิตามินบางต
วิตามิน A: พบในน้ำมันตับปลา ผักสีต่างๆ เช่น แครอท ผักโขม และหัวบีทรู้ท
ประโยชน์
* ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน
* ช่วยให้กระดูก ผม ฟัน และเหงือกแข็งแรง
* สร้างความต้านทานให้แก่ระบบหายใจ
* ช่วยสร้างภูมิชีวิตให้ดีขึ้น และทำให้หายป่วยเร็วขึ้น
* ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดอาการอักเสบของสิว ช่วยลบจุดด่างดำ และจุดวัยสูงอายุ
* ช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับไทรอยด์
ปริมาณที่แนะนำ
* ผู้ชายควรกินอาหารที่มีวิตามิน A 1,000 R.E. หรือเท่ากับ 5,000 I.U. ต่อวัน
* ผู้หญิงควรกินอาหารให้ได้วิตามิน A 800 R.E. หรือ 4,000 I.U. ต่อวัน
* หากกำลังตั้งครรภ์ควรกินเพิ่มเป
* สำหรับการกินวิตามิน A เป็นอาหารเสริมควรกินวันละ 10,000 I.U.
วิตามิน C
ประโยชน์
* เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวเส้นใยทำหน้าที่เชื
* ช่วยแผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ
* ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ
* ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซล
* ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหล
* ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
* ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
* ช่วยคลายเครียด
ปริมาณที่แนะนำ ในรายที่ขาดวิตามิน C ควรกิน เสริม วันละ 1,000 mg
วิตามิน D: พบมากในเนย นม เนยแข็ง และในแดด ดังนั้น เราจึงควรตากแดดวันละ 2-3 ชั่วโมง
ประโยชน์
* ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน และช่วยรักษาสิว ทั้งนี้หากกินร่วมกับวิตามิน B6 ในขนาดสูงๆ จะช่วยรักษาข้ออักสบ และโรคเรื้อนกวาง (สะเก็ดเงิน) ได้
ปริมาณที่แนะนำ ควรกินวิตามิน D เสริม วันละ 1,000 I.U
วิตามิน E
ประโยชน์
* หน้าที่สำคัญที่สุดของวิตามิน E เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ คือทำให้เกิดการเผาผลาญ (OXIDATION) โดยมีตัวออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร
* บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวก
* ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ
* บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวก
* ช่วยให้ผิวหนังสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น
* ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น และไม่อ่อนเพลียง่าย
ปริมาณที่แนะนำ
* ควรกินวิตามิน E เสริม ขนาดเม็ดละ 400 I.U. วันละ 2 เม็ด เช้า-เย็น
* ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดความดันโลหิตสูงได
* หากกินเหล็กและวิตามิน E พร้อมกัน จะเกิดภาวะที่ร่างกายไม่สามารถด
วิตามิน B1 หรือ Thiamin
ประโยชน์
* จำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท ระบบย่อย หัวใจ และกล้ามเนื้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และช่วยในการเจริญเติบโตของร
* ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตและรักษางูสว
ปริมาณที่แนะนำ
* ถ้าต้องการกินวิตามินชนิดนี้เป
* หากเกิดอาการเครียด ตื่นเต้น เจ็บป่วยโดยเฉพาะหลังผ่าตัด ควรกินวิตามิน B1 ร่วมกับวิตามิน B Complex (วิตามินบีรวม)
* คนที่ควรกินวิตามิน B1 เสริม คือ
– คนที่ชอบกินของหวานๆ กับแป้งขาวมากๆ หรือสูบบุหรี่ และดื่มเหล้าจัด ซึ่งมีโอกาสเป็นโรคขาดวิตามิน B1 ได้
– คนที่กินยาลดกรดในกระเพาะเป
– ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดเป
วิตามิน B6 หรือ Pyridoxine
ประโยชน์
* ช่วยเปลี่ยนแอมิโนแอซิดให้เป็นว
* ช่วยร่างกายสร้างน้ำย่อยในกระเพา
* ช่วยบรรเทาโรคเกิดระบบประสาทและผ
* ช่วยบรรเทาการคลื่นไส้ และอาเจียน
* ช่วยบรรเทาอาการปากแห้ง และคอแห้ง
* ช่วยแก้การเป็นตะคริว แขนขาชา และช่วยขับปัสสาวะ
ข้อแนะนำสำหรับบางคน
* ผู้ที่กินยาคุมกำเนิดควรกินว
* ผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าต้องใช้อินซูลิน ควรกินวิตามิน B6 ควบ และปรับอัตราการใช้อินซูลินให
วิตามินB12 หรือ Cobalamin
ประโยชน์
* ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
* ช่วยให้เด็กเติบโตและเจริญอาหาร
* ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดี
* ช่วยให้สมองไม่ฟุ้งซ่าน ความจำดี และมีสมาธิ
ข้อแนะนำสำหรับบางคน
* ผู้หญิงที่อ่อนเพลียเพราะประจำเด
* ผู้ที่เป็นมังสะวิรัติอย่างเคร
* ผู้ที่ติดเหล้าหรือดื่มจัดก
วิตามิน B3 หรือ Niacin
ประโยชน์
* ช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ แอลกอฮอล์ และยาเสพติด
* รักษาโรคทางจิตและโรคเกี่ยวก
* ช่วยอาการต่างๆ ของผู้ป่วยเบาหวานให้ดีขึ้น
* ช่วยรักษาโรคปวดหัวไมเกรน
* ช่วยบรรเทาโรคอาไทรทิสและข้ออ
* ช่วยกระตุ้นและแก้ไขความบกพร
* ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ปริมาณที่แนะนำ
* สามารถกินวิตามิน B3 เสริมได้ตั้งแต่ 100 – 2,000 mg ต่อวัน
* สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจควรใช
วิตามิน B5 หรือ Pantoyhenic Acid
ประโยชน์
* ช่วยสร้างแอนติบอดี้ซึ่งเป็นต
* เมื่อร่างกายเปลี่ยนไขมันที
* ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
* ช่วยให้ร่างกายหายจากการช็อคหล
* ช่วยให้อาการอ่อนเพลียหายเร็วขึ
ปริมาณที่แนะนำ
* ในรายที่ขาดวิตามิน B5 ควรกินเสริมวันละ 2 เม็ด เม็ดละ 100 mg
วิตามิน B Complex
ประโยชน์
* ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของคาร
* ช่วยให้ระบบประสาททำงานได
* ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะและลำ
* ช่วยบำรุงผิวหนัง เส้นผม ตา ปาก และตับ
* ในกลุ่มชีวจิตเราเชื่อว่าเมื
ปริมาณที่แนะนำ
* ตามปกติผู้ที่กินอาหารตามส
* ถ้าเป็นอาหาร วันหนึ่งๆ เรามีวิตามิน 2 ชนิดนี้รวมกันวันละ 300-400 mg ก็เพียงพอแล้วแต่ถ้าใช้เป็นยาต